ปัจจัยในการเลือกใช้ Software ERP

 

 

                            ในการพิจารณาเลือกใช้ Software ERP มาใช้ในองค์กรนั้น ต้องมีหลักในการพิจารณาตัดใจที่จะเลือก Software ERP มาใช้ ซึ่งองค์กรต่างๆ ควรพิจารณาถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
                1.  การพิจารณาว่าจะใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปหรือไม่
                องค์กรจำนวนมากที่เลือกใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป เพราะการพัฒนาซอฟแวร์ขึ้นมาเองนั้น จะมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและบำรุงรักษาสูง ควบคุมงบประมาณค่อนข้างยาก ใช้เวลานาน บุคลากรด้านสารสนเทศขององค์กรเองที่รับผิดชอบในการพัฒนาระบบมักขาดมุมมองด้านธุรกิจ และประสบการณ์ รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญ                    น้อยกว่าบุคลากรของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ถ้าหากซอฟต์แวร์สำเร็จรูปเป็นซอฟต์แวร์ที่อยจู่ในตลาดเป็นระยะเวลานาน มีลูกค้าจำนวนมาก การใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการนำ ERP ไปปฏิบัติ
                2. ฟังก์ชั่นของ ERP สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และความต้องการในการนำมาใช้งานขององค์กร
                ฟังก์ชั่นของระบบ ERP ที่เลือกจะต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และความต้องการในการนำมาใช้ตามที่มีการวางแนวคิดไว้ และเพื่อให้ดห็นภาพการทำงานของซอฟต์แวร์ ก่อนการตัดสินใจเลือกมาใช้ องค์กรสามารถเลือกชมการสาธิต หรือทดสอบความสามารถในการทำงานตามหน้าที่ต่างๆ ของซอฟต์แวร์
                3. ความยืดหยุ่นในการปรับแก้ซอฟต์แวร์
                ระบบ ERP จะต้องมีความยืดหยุ่น และสามารถปรับแต่งได้ เพื่อให้ตรงกับความต้องการหรือ   เมื่อองค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การปรับเปลี่ยนควรง่ายและมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามการปรับซอฟต์แวร์ที่มากเกินไปจะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลาเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้ได้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบจากวิธีการปฏิบัติที่ดีที่สุดของ ERP ลดน้อยลงไป
                4.  ต้นทุนในการเป็นเจ้าของระบบ
                องค์กรควรคำนึงถึงความเหมาะสม และเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่ได้รับกับต้นทุนทั้งหมดที่เป็นต้นทุนระยะสั้นและระยะยาว โดยต้นทุนจะประกอบด้วยต้นทุนของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ ต้นทุนการนำระบบไปปฏิบัติค่าใช้จ่ายที่ไปใช้ในการอบรมพัฒนาบุคลกร
5. การบำรุงรักษาระบบ
                จะต้องมีการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารควรจะต้องสร้างบุคลากรเพื่อทำหน้าที่ในการดูแลรักษาให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่บุคลากรขององค์กรไม่สามารถบำรุงรักษาระบบได้เอง และจำเป็นต้องให้บุคลากรภายนอกมาดูลแลส่วนนี้แทน ก็ควรพิจารณาปัจจัยด้านประสบการณ์ 
และความชำนาญในอุตสาหกรรมขององค์กร
              6. รองรับการทำงาน หรือเทคโนโลยีในอนาคต
               องค์กรควรพิจารณาซอฟต์แวร์ที่มีการเตรียมการสำหรับเชื่อต่อกับระบบภายนอกได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น